SPANISH OCTOPUS (GALICIA)

WITH INFUSED SEAWEED SAUCE AND SPANISH SEAWEED CAVIAR

ปลาหมึกยักษ์สเปน (Pulpo Gallego) นำเข้าจากแคว้นกาลิเซีย ไซส์ใหญ่ที่สุดของในแต่ละวัน เหตุผลที่ปลาหมึกยักษ์สเปนดีที่สุดในโลกคือ

1. น้ำใสสะอาดของกาลิเซีย น่านน้ำแอตแลนติกที่ล้อมรอบกาลิเซียมีน้ำเย็น อุดมไปด้วยสารอาหาร และมีกระแสน้ำที่แรง ทำให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมสำหรับปลาหมึกยักษ์ สภาพแวดล้อมเหล่านี้ทำให้ปลาหมึกยักษ์มีเนื้อสัมผัสและรสชาติดีเยี่ยม
2. แนวทางการประมงที่ยั่งยืน ชาวประมงกาลิเซียใช้กรรมวิธีดั้งเดิม เช่น กับดักหรือหม้อ ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าปลาหมึกยักษ์จะถูกจับได้อย่างยั่งยืนและไม่เครียด ช่วยรักษาคุณภาพความนุ่มของปลาหมึกไว้ได้
3. ความสมดุลที่สมบูรณ์แบบของเนื้อสัมผัสและรสชาติ ปลาหมึกยักษ์กาลิเซียได้รับความนิยมเนื่องจากมีเนื้อสัมผัสที่แน่นแต่ยังนุ่ม โดยมีรสหวานและเค็มตามธรรมชาติซึ่งสะท้อนถึงสภาพแวดล้อมที่บริสุทธิ์ ทำให้ปลาหมึกยักษ์ชนิดนี้สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลาย
4. ความเชี่ยวชาญทางวัฒนธรรม เชฟชาวกาลิเซียหลายชั่วอายุคนต่างเชี่ยวชาญในการปรุงปลาหมึกยักษ์ โดยเฉพาะในเมนูคลาสสิกอย่าง pulpo a la gallega (หรือ pulpo a feira) การเตรียมอาหารนี้—ต้มจนนุ่มพอดี หั่นเป็นชิ้น และปรุงรสด้วยน้ำมันมะกอก พริกปาปริก้ารมควัน และเกลือหยาบ—เน้นย้ำคุณสมบัติตามธรรมชาติของปลาหมึก
5. เป็นที่ต้องการสูงในด้านคุณภาพ กาลิเซียมีชื่อเสียงอย่างมากในด้านอาหารทะเลที่เป็นเลิศ ซึ่งหมายความว่าปลาหมึกจะถูกเก็บเกี่ยวและจัดการด้วยความเอาใจใส่เป็นอย่างดีเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานทั้งในท้องถิ่นและระดับนานาชาติสำหรับอาหารทะเลระดับพรีเมียม

ทางร้านโสภานำปลาหมึกกาลิเซียเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเมนู เพราะเราต้องการนำเสนอสมบัติล้ำค่าด้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดชิ้นหนึ่งของสเปน!

สาหร่ายทะเลสเปนจากกาลิเซียได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสาหร่ายทะเลที่ดีที่สุดในโลกเนื่องจากคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการเพาะปลูกสาหร่ายทะเลในภูมิภาคนี้ นี่คือเหตุผลที่สาหร่ายทะเลชนิดนี้โดดเด่น

1. น้ำทะเลแอตแลนติกที่บริสุทธิ์ แนวชายฝั่งของกาลิเซียถูกน้ำทะเลแอตแลนติกที่เย็นและอุดมด้วยสารอาหารซัดสาด ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเติบโตของสาหร่ายทะเลที่หลากหลายและมีคุณภาพสูง กระแสน้ำที่แรงและระบบน้ำขึ้นน้ำลงทำให้สาหร่ายทะเลมีความสด สะอาด และมีสารอาหารหนาแน่น
2. พันธุ์ที่หลากหลาย กาลิเซียเป็นถิ่นอาศัยของสาหร่ายทะเลหลากหลายสายพันธุ์ เช่น วากาเมะ คอมบุ โนริ และสปาเกตตี้ทะเล ความหลากหลายทางชีวภาพนี้ทำให้เชฟสามารถทดลองรสชาติ เนื้อสัมผัส และการประยุกต์ใช้ในการปรุงอาหารที่แตกต่างกันได้
3. แหล่งอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง สาหร่ายทะเลกาลิเซียอุดมไปด้วยวิตามิน (A, C, B12) แร่ธาตุ (ไอโอดีน ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม) และสารต้านอนุมูลอิสระโดยธรรมชาติ สาหร่ายทะเลมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น ช่วยเร่งการเผาผลาญ ช่วยการทำงานของต่อมไทรอยด์ และเสริมภูมิคุ้มกัน
4. การเก็บเกี่ยวอย่างยั่งยืน กาลิเซียใช้การเก็บเกี่ยวสาหร่ายอย่างยั่งยืน เพื่อให้แน่ใจว่าระบบนิเวศทางทะเลยังคงสมดุล แนวทางที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมนี้ช่วยเพิ่มคุณภาพของสาหร่ายทะเลในขณะที่รักษาสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติไว้
5. ความหลากหลายในการทำอาหาร สาหร่ายทะเลกาลิเซียเป็นที่ชื่นชอบในหมู่เชฟเนื่องจากมีรสชาติที่หลากหลาย ตั้งแต่รสอูมามิไปจนถึงรสหวานหรือเค็มเล็กน้อย สาหร่ายทะเลกาลิเซียเป็นอาหารเสริมสำหรับอาหารทะเลแบบดั้งเดิมของกาลิเซียและอาหารชั้นสูงสมัยใหม่
6. การแปรรูปแบบดั้งเดิม ผู้ผลิตหลายรายในกาลิเซียใช้เทคนิคการอบแห้งและถนอมอาหารแบบดั้งเดิมเพื่อรักษาความสดและรสชาติของสาหร่ายทะเล ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้คุณภาพระดับพรีเมียมสำหรับตลาดทั้งในท้องถิ่นและต่างประเทศ การนำสาหร่ายทะเลกาลิเซียมาใส่ไว้ในเมนูของคุณจะช่วยเชื่อมโยงผู้รับประทานเข้ากับรสชาติดั้งเดิมของกาลิเซียและมรดกทางทะเลอันยอดเยี่ยม!

สาหร่าย (Alga) ในสเปนมีบทบาทสำคัญทั้งในแง่ของอาหารและวัฒนธรรมอาหารของประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคที่ติดกับทะเล เช่น แคว้นกาลิเซีย (Galicia) และ ประเทศบาสก์ (Basque Country) ซึ่งมีการใช้สาหร่ายในการประกอบอาหารอย่างแพร่หลายทั้งในอาหารทะเลและในอาหารดั้งเดิมของสเปน การใช้สาหร่ายในสเปนไม่ได้จำกัดแค่ในแง่ของการเป็นวัตถุดิบ แต่ยังมีความสำคัญในแง่ของการรักษาความเป็นมาของวิธีการทำอาหารในอดีตและการผสมผสานระหว่างธรรมชาติและวัฒนธรรมการทำอาหารที่หลากหลายของสเปน

ประวัติของสาหร่ายในสเปน

1. การใช้สาหร่ายในแคว้นกาลิเซีย (Galicia):
   • แคว้นกาลิเซีย ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสเปน เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีการใช้สาหร่ายอย่างแพร่หลายในการทำอาหาร โดยเฉพาะในเมนู “percebes” (หอยเปลือกหนา) และอาหารทะเลต่างๆ
   • สาหร่ายในภูมิภาคนี้มีความหลากหลายและใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารทะเลเพื่อเพิ่มรสชาติ โดยเฉพาะ สาหร่ายทะเลชนิดต่างๆ เช่น “nori” และ “kombu” ที่มีลักษณะและคุณสมบัติในการเพิ่มรสชาติให้กับอาหาร
   • สาหร่ายที่ใช้ในกาลิเซียไม่เพียงแต่เป็นส่วนประกอบในการทำอาหารท้องถิ่น แต่ยังมีบทบาทในความสัมพันธ์กับการทำประมง โดยชาวกาลิเซียบางคนยังคงใช้สาหร่ายเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมประมงเพื่อให้ได้อาหารทะเลที่มีรสชาติดี
2. สาหร่ายในอาหารทะเล:
   • สาหร่ายทะเล ในสเปนใช้ในการประกอบอาหารทะเล เช่น ปลาหมึก หรือ หอย โดยมักใช้ในการปรุงรสหรือเพิ่มเนื้อสัมผัสให้กับอาหาร สาหร่ายชนิดต่างๆ เช่น “dulse” หรือ “wakame” มักถูกนำมาผสมในอาหารทะเลในเมนูต่างๆ
   • ในบางพื้นที่ของสเปน สาหร่ายยังถูกนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของ “empanada” หรือ tapas (ทาปาส) โดยใช้เพื่อเติมรสชาติหรือเป็นส่วนประกอบของอาหารจานเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงของประเทศ
3. การใช้สาหร่ายในสเปนในศตวรรษที่ 21:
   • ในปัจจุบัน สาหร่ายได้รับการยอมรับว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสามารถใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารที่มีความหลากหลาย การใช้สาหร่ายในสเปนจึงมีการพัฒนาไปตามการเติบโตของความนิยมในอาหารทะเลที่มีความยั่งยืนและสมดุล
   • สาหร่ายทะเล ถือเป็นแหล่งที่ดีของวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ ซึ่งทำให้มันได้รับความนิยมในการนำมาใช้ในเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น การทำ สลัดสาหร่าย หรือ ซุปสาหร่าย ซึ่งเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
4. การผลิตสาหร่ายในเชิงพาณิชย์:
   • นอกจากนี้ ในบางพื้นที่ของสเปนก็มีการผลิตสาหร่ายในเชิงพาณิชย์ เช่น การปลูก สาหร่ายทะเล ที่ใช้ในการแปรรูปและผลิตเป็น สาหร่ายแห้ง หรือ ผลิตภัณฑ์จากสาหร่าย ซึ่งได้รับความนิยมทั้งในตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยสเปนถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตสาหร่ายทะเลที่สำคัญในยุโรป

ประเภทของสาหร่ายที่ใช้ในสเปน

1. Alga Nori:
   • สาหร่ายนอร์ริเป็นสาหร่ายที่ใช้ในเมนูต่างๆ เช่น ซูชิ หรืออาหารญี่ปุ่นที่มีการผสมผสานกับอาหารสเปนในบางกรณี
   • ใช้เป็นส่วนประกอบในเมนูอาหารทะเลหรือใช้ในทาปาสเพื่อเพิ่มรสชาติ
2. Alga Kombu:
   • เป็นสาหร่ายที่มีความเค็มและมักใช้ในการทำซุปหรือเป็นส่วนประกอบในอาหารทะเล
   • มักใช้ในการทำ ซุปปลา หรือในเมนูอาหารทะเลต่างๆ ที่ต้องการเพิ่มรสชาติ
3. Alga Wakame:
   • เป็นสาหร่ายชนิดหนึ่งที่มีลักษณะนิ่ม มักจะใช้ใน สลัด หรือเป็นส่วนประกอบใน ซุปมิโสะ หรือ ซุปทะเล
   • ใช้ในการเพิ่มรสชาติและสัมผัสที่นุ่มนวลในเมนูอาหาร
4. Sargassum:
   • สาหร่ายชนิดนี้มีการใช้ในอาหารทะเลหรือเมนูสลัดในบางพื้นที่ของสเปน
   • มีคุณสมบัติในการเพิ่มรสชาติและสารอาหารในอาหารที่มีความสมดุล

การนำสาหร่ายไปใช้ในอาหาร

• ทาปาส (Tapas): สาหร่ายสามารถใช้ในการทำทาปาส โดยการเพิ่มสาหร่ายลงในจานเล็กๆ เช่น ทาปาสจากสาหร่ายผัด
• สลัด (Salad): สาหร่ายสดหรือแห้งสามารถนำมาผสมในสลัดให้รสชาติที่สดชื่นและรสชาติทะเล
• ซุป (Soup): ใช้สาหร่ายในซุปทะเล เช่น ซุปปลาคานตาเบรีย หรือ ซุปปลาทะเล เพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ

สาหร่ายในสเปนมีการใช้มานานหลายศตวรรษ โดยเฉพาะในแคว้นที่มีชายฝั่งทะเลเช่น กาลิเซีย และ บาสก์ สาหร่ายไม่เพียงแต่เป็นส่วนสำคัญในอาหารทะเลแต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการทำอาหารที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนและทะเล การใช้สาหร่ายในสเปนในปัจจุบันได้รับความนิยมทั้งในแง่ของการทำอาหารเพื่อสุขภาพและการสร้างอาหารทะเลที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์

สาหร่ายคาเวียร์ (Seaweed caviar) หรือที่บางครั้งเรียกว่า “คาเวียร์สาหร่าย” เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคาเวียร์ของปลา แต่ใช้ สาหร่ายทะเล เป็นส่วนประกอบหลักแทนไข่ปลาจริงๆ เพื่อสร้างลักษณะของไข่ปลาที่เล็กและมีรสชาติที่คล้ายคลึงกัน ขณะเดียวกันก็เป็นทางเลือกที่มักจะถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการจับปลาหรือการทำลายทรัพยากรสัตว์ทะเล

ประวัติของสาหร่ายคาเวียร์

1. การเกิดขึ้นของคาเวียร์สาหร่าย:
   • สาหร่ายคาเวียร์ เริ่มได้รับความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารที่มีแนวโน้มไปทาง อาหารจากพืช (Plant-based) และ อาหารมังสวิรัติ (Vegan food) เนื่องจากสาหร่ายทะเลไม่เพียงแต่ให้รสชาติที่คล้ายคลึงกับคาเวียร์ แต่ยังสามารถให้สารอาหารที่ดีต่อร่างกาย เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3, ไอโอดีน และแร่ธาตุต่างๆ
   • คาเวียร์สาหร่ายมีลักษณะคล้ายกับ คาเวียร์ปลาคุณภาพดี ที่มีไข่ปลาขนาดเล็กที่มีลักษณะเป็นเม็ดกลมและเคลือบด้วยสารที่ทำให้เม็ดเหล่านั้นเกาะตัวกันและมีความแตกต่างจากคาเวียร์ปลาทั่วไป
2. การพัฒนาผลิตภัณฑ์:
   • สาหร่ายคาเวียร์ทำมาจาก สาหร่ายทะเลชนิดต่างๆ โดยเฉพาะสาหร่ายที่มีขนาดเม็ดเล็กๆ เช่น “ฮีโรปิกา”(Hijiki) หรือ “ฟูกุ” (Wakame) หรือบางครั้งอาจใช้ “คอมบู” (Kombu) ซึ่งเป็นสาหร่ายที่มีรสชาติเค็ม
   • การทำสาหร่ายคาเวียร์จะใช้การแปรรูปสาหร่ายทะเลให้มีลักษณะคล้ายกับไข่ปลาจากปลา โดยการ หมัก และ ปรุงรส ด้วย น้ำส้มสายชู หรือ น้ำมันมะกอก เพื่อเพิ่มรสชาติและลักษณะเม็ดกลมเหมือนคาเวียร์
3. ความนิยมและการใช้:
   • ด้วยการที่สาหร่ายคาเวียร์สามารถเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ทานมังสวิรัติ (Vegan) หรือมังสวิรัติแบบเคร่งครัด (Vegetarian) การเติบโตของตลาดอาหารประเภทนี้จึงเพิ่มขึ้น
   • คาเวียร์สาหร่ายยังสามารถพบได้ในเมนูอาหารที่มีการเน้นความยั่งยืนและอาหารที่มาจากพืช อาจถูกใช้เป็นเครื่องเคียงในอาหารสลัด ทาปาส หรือแม้แต่ใน อาหารแนวฟิวชั่น (Fusion cuisine) ที่นำมาผสมผสานกับสไตล์การทำอาหารของประเทศต่างๆ
4. การทำคาเวียร์สาหร่ายในเชิงพาณิชย์:
   • ในปัจจุบัน สาหร่ายคาเวียร์ได้รับความนิยมมากขึ้นในตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะในร้านอาหารที่เน้นการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติและรักษาความยั่งยืน สาหร่ายคาเวียร์ถูกผลิตและจำหน่ายในหลายรูปแบบ ทั้งในรูปแบบสดหรือแห้ง ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการปรุงอาหารในร้านอาหารหรูหรา หรือร้านอาหารที่เน้นอาหารมังสวิรัติ
   • บริษัทหลายแห่งเริ่มมีการผลิตคาเวียร์สาหร่ายในระดับเชิงพาณิชย์และจัดจำหน่ายไปทั่วโลก โดยการบรรจุในภาชนะที่ปิดผนึกอย่างดีเพื่อรักษาความสดและรสชาติของสาหร่าย

สาหร่ายคาเวียร์และประโยชน์ด้านสุขภาพ

1. แหล่งของสารอาหาร:
   • สาหร่ายทะเลมีแร่ธาตุและสารอาหารที่สำคัญ เช่น วิตามิน A, C, E และ กรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจและสมอง
   • นอกจากนี้ยังมี ไอโอดีน ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยในการทำงานของต่อมไทรอยด์ รวมทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
2. การใช้ในอาหาร:
   • สาหร่ายคาเวียร์มักจะใช้เป็นเครื่องเคียงในอาหารต่างๆ เช่น ทาปาส, สลัด, ซุป, หรือใช้ตกแต่ง ข้าวห่อสาหร่ายหรือ ซูชิ ในอาหารญี่ปุ่น
   • เนื่องจากมีรสชาติที่เค็มและมีลักษณะเม็ดกลมคล้ายคาเวียร์ปลา สาหร่ายคาเวียร์จึงถูกใช้เพื่อเพิ่มรสชาติและรูปลักษณ์ในจานอาหาร

สาหร่ายคาเวียร์ (Seaweed Caviar) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งใช้ สาหร่ายทะเล เป็นทางเลือกในการทดแทน คาเวียร์จากปลา โดยการแปรรูปสาหร่ายให้มีลักษณะคล้ายกับไข่ปลาของสัตว์ทะเล การผลิตสาหร่ายคาเวียร์มักจะใช้สาหร่ายที่มีเม็ดเล็กและมีรสเค็ม จากนั้นนำไปหมักและปรุงรสจนได้รสชาติที่คล้ายคลึงกับคาเวียร์ปลา โดยไม่ต้องทำลายสัตว์ทะเลใดๆ ช่วยให้มันกลายเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนและเหมาะสมกับกลุ่มคนที่เลือกทานมังสวิรัติหรือมังสวิรัติแบบเคร่งครัด

ขอบคุณที่อ่านโพสต์จานปลาหมึกและสาหร่ายจนจบกันทุกท่านครับ

Buen Provecho

Chef Capper , Vacharobol Sopa

SOPA RESTAURANT

BSKN FOOD CO., LTD.

ร้านอาหารสเปนอันดับหนึ่งใกล้ฉัน กรุงเทพ “โสภา เรสเตอรอง”

อ่านคอร์สที่ 4 -> SPANISH OCTOPUS (GALICIA) WITH INFUSED SEAWEED SAUCE AND SPANISH SEAWEED CAVIAR