IBERICO PENINSULA (ANDALUCIA)
IBERICO PORK AND LAMB FERMENTED IN HERB ROCK SALT
WITH ROMESCO SAUCE, GREEN MOJO, SHOYU RED PEPPER SAUCE

หมูอิเบริโก iberico และแกะอิเบริโก เสิร์ฟบนซอสโรเมสโก้ , ซอสพริกเบลแดงเผาปั่นกับโชยุ , กรีนโมโจ

หมูอิเบริโก (Iberico Pork) เป็นวัตถุดิบระดับพรีเมียมที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสเปนและโปรตุเกส โดยเฉพาะในเขต Iberian Peninsula ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกในด้านรสชาติที่เข้มข้นและคุณภาพที่โดดเด่น หมูอิเบริโกได้รับการยกย่องว่าเป็น “วากิวแห่งเนื้อหมู” เนื่องจากมีไขมันแทรกตัวในเนื้ออย่างสมบูรณ์แบบ

ทางร้านจะมีเปลี่ยน Main Course ส่วนของหมู iberico สลับกันไปครับ บางครั้งก็จะใช้ Rack Rib ครับ

ลักษณะเด่นของหมูอิเบริโก
1. สายพันธุ์
• หมูอิเบริโกเป็นหมูสายพันธุ์พื้นเมืองของคาบสมุทรไอบีเรีย (Iberian Peninsula)
• พันธุ์ที่สำคัญที่สุดคือ Black Iberian Pig (หมูดำอิเบริโก) ที่มีคุณสมบัติพิเศษทางพันธุกรรม ทำให้เนื้อมีไขมันแทรกสูง
2. อาหารและการเลี้ยงดู
• หมูอิเบริโกเลี้ยงแบบปล่อยอิสระในทุ่งหญ้าที่เรียกว่า Dehesa ซึ่งเต็มไปด้วยต้นโอ๊ก
• อาหารหลักคือ ลูกโอ๊ก (Bellota) ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพของไขมัน ทำให้เนื้อมีรสชาติเข้มข้นและมีความหอมเฉพาะตัว
3. ไขมันแทรกตัวในเนื้อ (Marbling)
• ไขมันของหมูอิเบริโกมีลักษณะพิเศษคือมีไขมันไม่อิ่มตัวสูง ซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพ
• ไขมันแทรกในเนื้อช่วยเพิ่มความนุ่ม และทำให้เนื้อมีรสชาติที่เด่นชัด
ประเภทของผลิตภัณฑ์จากหมูอิเบริโก
1. แฮมอิเบริโก (Jamón Ibérico)
  • • เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด ทำจากขาหลังของหมูอิเบริโกและผ่านกระบวนการหมักเกลือและตากแห้ง
  • • แบ่งระดับคุณภาพตามอาหารของหมู เช่น
  • • Jamón Ibérico de Bellota: จากหมูที่กินลูกโอ๊กเป็นหลัก (คุณภาพสูงสุด)
  • • Cebo: จากหมูที่กินธัญพืช
2. เนื้อสด
• ส่วนที่นิยมมากคือ Pluma, Secreto, และ Presa ซึ่งเป็นส่วนที่มีความนุ่มและไขมันแทรกมาก
• นิยมใช้ทำสเต็กหรือย่างในเมนูระดับพรีเมียม
3. ไส้กรอกและผลิตภัณฑ์แปรรูป
• เช่น ชอริโซ (Chorizo Ibérico) และซาลชิชอน (Salchichón Ibérico)
รสชาติและการปรุงอาหาร
1. รสชาติ
• หมูอิเบริโกมีรสชาติที่ลุ่มลึก เนื้อมีความหวานธรรมชาติ ไขมันที่ละลายในปากเพิ่มความหอมและความชุ่มฉ่ำ
2. วิธีการปรุง
• นิยมย่างหรือย่างบนกระทะเพื่อดึงรสชาติไขมันออกมา
• สำหรับแฮมอิเบริโก นิยมเสิร์ฟแบบดิบ (Cured Ham) และหั่นบาง ๆ เพื่อดึงรสชาติออกมาอย่างเต็มที่
การจัดระดับคุณภาพของหมูอิเบริโก
1. ป้ายสี (Color Tags)
  • • สีดำ (Black Label): หมูอิเบริโก 100% ที่เลี้ยงด้วยลูกโอ๊ก
  • • สีแดง (Red Label): หมูอิเบริโกที่มีการผสมพันธุ์ แต่เลี้ยงด้วยลูกโอ๊ก
  • • สีเขียว (Green Label): หมูที่เลี้ยงด้วยธัญพืชและพืชธรรมชาติ
  • • สีขาว (White Label): หมูอิเบริโกที่เลี้ยงด้วยธัญพืช
ความสำคัญในวัฒนธรรมสเปน
• หมูอิเบริโกเป็นส่วนหนึ่งของอาหารประจำชาติสเปนและเป็นวัตถุดิบที่แสดงถึงความหรูหรา
• การเลี้ยงหมูอิเบริโกและการผลิตแฮมอิเบริโกถือเป็นศิลปะที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น
ราคาและความนิยมระดับโลก
• หมูอิเบริโก โดยเฉพาะ Jamón Ibérico de Bellota เป็นหนึ่งในเนื้อสัตว์ที่มีราคาสูงที่สุดในโลก
• นิยมในร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์และตลาดอาหารระดับพรีเมียมทั่วโลก
หมูอิเบริโก เป็นวัตถุดิบที่สะท้อนถึงความพิถีพิถันในการเลี้ยงดูและการผลิต เป็นสัญลักษณ์ของคุณภาพ ความหรูหรา และเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของเชฟและนักชิมทั่วโลก!

<yoastmark class="yoast-text-mark">https://youtube.com/shorts/nEXuT3Hyl_E</yoastmark>

แกะอิเบริโก (Iberian Lamb) เป็นผลิตภัณฑ์จากแกะที่เลี้ยงในพื้นที่ของคาบสมุทรไอบีเรีย (Iberian Peninsula) เช่นเดียวกับหมูอิเบริโก และมีลักษณะเด่นที่มาจากอาหารและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากแกะทั่วไป ซึ่งทำให้เนื้อแกะอิเบริโกมีรสชาติที่ลึกซึ้งและคุณภาพสูง
ลักษณะเด่นของแกะอิเบริโก
1. การเลี้ยงดู
• แกะอิเบริโกมักถูกเลี้ยงในพื้นที่ที่มีการปลูกต้นโอ๊ก (Dehesa) ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่มีทั้งหญ้าและลูกโอ๊ก
• ลูกโอ๊กที่ร่วงหล่นจากต้นโอ๊กช่วยให้แกะมีอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทำให้เนื้อของแกะมีรสชาติที่หอมหวานและแตกต่างจากแกะทั่วไป
2. ลักษณะของเนื้อ
• เนื้อแกะอิเบริโกมักมีไขมันแทรกในเนื้อ ทำให้เนื้อมีความนุ่มและรสชาติหวานอร่อย
• ไขมันที่แทรกในเนื้อช่วยเพิ่มความชุ่มฉ่ำและช่วยให้รสชาติของเนื้อเด่นชัด
คุณสมบัติของเนื้อแกะอิเบริโก
1. รสชาติ
• เนื้อแกะอิเบริโกมีรสชาติที่อ่อนหวานและมีกลิ่นหอมจากลูกโอ๊ก
• เนื้อจะมีความนุ่มและละลายในปาก ทำให้ได้รับความนิยมในร้านอาหารหรูหรา
2. ไขมันแทรกตัวในเนื้อ
• ไขมันที่แทรกในเนื้อมีลักษณะคล้ายกับหมูอิเบริโก ช่วยเพิ่มความหอมและรสชาติให้กับเนื้อแกะ
การนำไปใช้ในเมนู
1. สเต็กแกะอิเบริโก
• สามารถนำเนื้อแกะมาใช้ทำสเต็กได้ โดยการย่างหรือทำอาหารที่ต้องการให้เนื้อมีความนุ่มและชุ่มฉ่ำ
2. อาหารประเภทย่าง
• นิยมทำอาหารประเภทย่าง เช่น ย่างทั้งชิ้น หรือย่างกับเครื่องเทศและสมุนไพร เช่น โรสแมรี และกระเทียม
3. เมนูเนื้อแกะในน้ำซุป
• การทำซุปหรือน้ำสตูว์จากเนื้อแกะอิเบริโกสามารถช่วยให้รสชาติของเนื้อออกมาดีที่สุด
การตลาดและราคา
• แกะอิเบริโก มักจะมีราคาแพงกว่าผลิตภัณฑ์เนื้อแกะทั่วไปเนื่องจากกระบวนการเลี้ยงดูและคุณภาพของเนื้อที่มีความพิเศษ
• เป็นที่นิยมในร้านอาหารระดับสูงและตลาดอาหารพรีเมียมทั่วโลก
แกะอิเบริโก เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์จากคาบสมุทรไอบีเรียที่ได้รับการยกย่องในด้านรสชาติและคุณภาพ เนื้อมีความนุ่มและรสชาติที่มีเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับการนำมาปรุงเป็นเมนูระดับพรีเมียมในร้านอาหารหรือโอกาสพิเศษ!
อิเบริโกเพนินซูล่า (Iberian Peninsula) หรือที่รู้จักในภาษาสเปนว่า Península Ibérica และในภาษาโปรตุเกสว่า Península Ibérica เป็นแหลมทางตะวันตกเฉียงใต้ของยุโรปที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และวัฒนธรรม ประกอบด้วยสองประเทศหลักคือ สเปน และ โปรตุเกส รวมถึงอาณาเขตเล็ก ๆ ของอันดอร์รา ยิบรอลตาร์ (ดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร) และบางส่วนของฝรั่งเศส
ลักษณะทางภูมิศาสตร์
  • 1. ที่ตั้ง
  • • อิเบริโกเพนินซูล่าตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของยุโรป
  • • มีพรมแดนทางเหนือจรดเทือกเขาพิเรนีส (Pyrenees Mountains) ที่กั้นระหว่างสเปนและฝรั่งเศส
  • • ทางตะวันตกเฉียงใต้ล้อมรอบด้วยมหาสมุทรแอตแลนติก และทางตะวันออกเฉียงใต้ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
2. แม่น้ำสำคัญ
• แม่น้ำในแหลมนี้มีบทบาทสำคัญ เช่น แม่น้ำทาโฮ (Tagus), แม่น้ำเอโบร (Ebro), และแม่น้ำกัวเดียลกีวีร์ (Guadalquivir)
ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
1. ยุคก่อนประวัติศาสตร์
• อิเบริโกเพนินซูล่าเป็นหนึ่งในพื้นที่แรก ๆ ที่มีมนุษย์ยุคหินอาศัยอยู่ โดยมีถ้ำ Altamira ในสเปนเป็นตัวอย่างของศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์
2. การปกครองของอารยธรรมต่าง ๆ
• ชาวฟินิเชียน กรีก และโรมันได้เข้ามามีอิทธิพลในพื้นที่นี้
• ในศตวรรษที่ 8 พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกปกครองโดยชาวมัวร์จากแอฟริกาเหนือ
3. ยุคกลางและยุคเรคอนกิสตา (Reconquista)
• ชาวคริสเตียนในสเปนและโปรตุเกสทำสงครามยึดคืนดินแดนจากชาวมัวร์ (ศตวรรษที่ 8–15)
• เป็นช่วงเวลาที่เกิดการรวมชาติและการพัฒนาภาษาและวัฒนธรรมของสองประเทศ
4. ยุคสำรวจ (Age of Exploration)
• อิเบริโกเพนินซูล่าเป็นต้นกำเนิดของนักสำรวจที่มีชื่อเสียง เช่น คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส และวาสโก ดา กามา
• ทั้งสเปนและโปรตุเกสกลายเป็นมหาอำนาจทางทะเลในศตวรรษที่ 15–16
วัฒนธรรมอาหารในอิเบริโกเพนินซูล่า
1. วัตถุดิบท้องถิ่น
• อาหารในพื้นที่นี้สะท้อนถึงทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แฮมอิเบริโก (Jamón Ibérico), น้ำมันมะกอก, ไวน์ และอาหารทะเล
2. เอกลักษณ์ของอาหาร
• สเปน: เน้นอาหารเช่น ปาเอญ่า กาซปาโช่ และทาปาส
• โปรตุเกส: มีเมนูเด่น เช่น บาคาลเฮา (ปลาค็อดเค็ม) และซุปคาลดูแวร์เด (Caldo Verde)
3. ไวน์และเครื่องดื่ม
• อิเบริโกเพนินซูล่ามีชื่อเสียงด้านไวน์ เช่น ไวน์ริโอฮา (Rioja) ของสเปน และไวน์พอร์ต (Port) ของโปรตุเกส
ความสำคัญทางเศรษฐกิจ
1. การเกษตรและปศุสัตว์
• การผลิตแฮมอิเบริโกซึ่งใช้หมูดำพันธุ์อิเบริโกเป็นหนึ่งในสินค้าเศรษฐกิจสำคัญ
• พื้นที่ปลูกองุ่นและมะกอกมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมไวน์และน้ำมันมะกอก
2. การท่องเที่ยว
• เมืองประวัติศาสตร์อย่างบาร์เซโลนา มาดริด ลิสบอน และซินตรา ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
บทบาทในยุคปัจจุบัน
• อิเบริโกเพนินซูล่ายังคงเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมและเศรษฐกิจในยุโรป
• ความร่วมมือระหว่างสเปนและโปรตุเกสช่วยสร้างเอกลักษณ์ร่วมในด้านการท่องเที่ยว ศิลปะ และอาหาร
อิเบริโกเพนินซูล่าเป็นดินแดนที่มีทั้งความหลากหลายทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่เข้มข้น
ซอสโรเมสโก้ (Romesco Sauce) เป็นซอสที่มีต้นกำเนิดจากแคว้นคาตาโลเนีย (Catalonia) ในสเปน และถือเป็นหนึ่งในซอสที่มีชื่อเสียงที่สุดในอาหารสเปน ซอสนี้มีรสชาติที่เข้มข้นและหลากหลาย ประกอบด้วยส่วนผสมหลักที่คัดสรรมาอย่างดี ซึ่งทำให้มันเป็นตัวเลือกยอดนิยมในการเสิร์ฟกับอาหารทะเล, เนื้อย่าง, และผักย่าง

 

ขอบคุณที่อ่านโพสต์หมูอิเบริโก และแกะอิเบริโกจนจบกันทุกท่านครับ

Buen Provecho

Chef Capper , Vacharobol Sopa

SOPA RESTAURANT

BSKN FOOD CO., LTD.

ร้านอาหารสเปนอันดับหนึ่งใกล้ฉัน กรุงเทพ “โสภา เรสเตอรอง”

อ่านคอร์สที่ 11 ->  “Pre-Dessert” RED SANGRIA (MADRID)