“Cenador de Amos” ร้าน อาหารสเปน สามดาวที่ผมใช้บริการและตัดสินใจทำงานหลังเรียนจบ

มาต่อเนื่องกับ อาหารสเปน ไฟน์ไดน์นิ่งเมือง Cantabria กันครับวันนี้ เชฟนั่งรถไฟมาลงป้าย “Villaverde de Pontones” ที่ไม่รู้เลยว่าอนาคตต้องมาลงป้ายนี้ในทุกๆวันต่อจากนี้ 555

 

 

มาถึงก็เข้าที่พักครับ เชฟเช่าเป็น Airbnb ครับ ซึ่งที่พักหายากมากๆ มาถึงก็เจอเจ้าสามตูบมาต้อนรับ ตัวเล็ก ไม่ดุมากครับ ถ้าเชฟโดนรุมคงพอสู้ได้ครับ

 

 

ช่วงเย็นเราก็เดินมาถึงที่ร้าน Cenador de Amos ครับ ซึ่งบรรยากาศด้านนอกจะเป็นตึกเก่า ตึกด้านหน้าเป็นร้านอาหาร และตึกด้านหลังไว้สำหรับจัดงานเลี้ยงครับ ร้านนี้เป็นของเชฟ “Jesús Sánchez” และภรรยา Marian ผู้ปิดทองหลังพระ เชฟพิมพ์บล็อกนี้ไปก็คิดถึงความหลังสมัยทำงานที่นั่นครับ มีความสุขจริงๆครับ ด้วยความที่ร้านอยู่ไกลจากเมืองหลัก เซอร์วิสของทางร้านจึงได้ทำเรือนรับรองเพื่อให้แขกทุกท่านได้พักก่อน จิบเครื่องดื่มเย็นๆกับขนมก่อนเข้าร้านอาหารครับ

เชฟได้รับเชิญมาที่ห้องรับรอง อย่างแรกคือได้รับ Mocktail รอบบนี้ได้เป็นสีแดงเพื่อคู่กับราสเบอร์รี่และเพียวเร่ด้านใน อีกคำเป็นมินิทาร์ทมูสครีมกับไข่ปลาแซลม่อน

เบียร์เมืองแคนตาเบรียกับมันฝรั่งสีดำ ทำจากผงมันฝรั่งและมูสครีมต่างๆจากสาหร่ายและของทะเล ด้านบนเป็นเพรียงคอห่านครับ ซึ่งคุณลูกค้าท่านใดที่สนใจอยากลอง สามารถมาลองกันได้ที่ร้าน Sopa Restaurant นะครับ

เสิร์ฟคู่กับไข่เจียวสเปน Tortilla de Patatas รูปเกลียว

เข้ามาด้านในแล้วครับ

Appetizer จะเป็นขนมปังรูปเห็ด, ปลาแองโชวี่ของเมืองแคนตาเบรียครับ เซอร์วิสจะมาม้วนปลาที่อยู่กับเนยให้ทานครับ

ปลาทูน่ารมควันเสิร์ฟกับ Artichoke เนยและไข่ปลาคาเวียร์

หอยนางรมกับขนมปัง เนยสองแบบคือแบบธรรมดาและแองโชวี่

ปลา Hake ซูว์วี กับโรยถั่วเขียวตกแต่ง พอทานเสร็จพนักงานจะเทคอนซูเม่ให้ต่อ

ซุปครีมเห็ดข้น

กุ้งขาวกับของกรอบ ซุปเป็นบิสกุ้ง

ปลา Monkfish กับ Side Dish เป็นมันฝรั่งเต๋าเล็กคลุกกับซอส

ตับปลาและคอนซูเม่

อกนกกระทารมควันและชูว์กลมด้านในเป็นมูสตับ

พักด้วยค็อกเทลที่ทำจากโฟมเบียร์

ขนมโมจิ

ของหวานช็อคโกแลตคือสิ่งที่ทำให้เชฟอยากมาทำงานที่นี่ครับ อีกสองจานเป็นเยลลี่ผลไม้สามแบบ และเกล็ดน้ำแข็ง

จบด้วย Petit Fours และกาแฟครับ

ขากลับหลังจากใช้บริการก็เดินกลับที่พักครับ

-ประวัติของ อาหารสเปน ณ เมืองแคนตาเบรีย-

Cantabria เป็นหนึ่งใน 17 ชุมชนอิสระของสเปน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ โดยมีชายฝั่งทะเลแอตแลนติกและภูเขาปิกอส เดอ เอลโซบีโอ (Picos de Europa) อยู่ในภูมิภาคนี้ เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่เชื่อมโยงกับหลายวัฒนธรรม รวมทั้งคนพื้นเมืองโบราณและอาณาจักรต่าง ๆ ที่ครอบครองพื้นที่นี้

ประวัติย่อของ Cantabria:
  1. ยุคโบราณ: Cantabria เคยเป็นที่ตั้งของชาวคันทาเบรียน (Cantabrians) ซึ่งเป็นกลุ่มชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้ในช่วงสมัยโรมัน พวกเขาต่อต้านการรุกรานของโรมันจนกระทั่งในช่วงต้นศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช (ประมาณ 29-19 ปีก่อนคริสต์ศักราช) จักรพรรดิออกุสตุส (Augustus) ของโรมันได้กวาดล้างพวกเขาและเข้าครอบครองพื้นที่นี้

  2. ยุคกลาง: หลังจากการล่มสลายของอาณาจักรโรมันในศตวรรษที่ 5 พื้นที่ของ Cantabria ถูกควบคุมโดยราชอาณาจักร Visigoth และต่อมาเมื่อเกิดการรุกรานของมุสลิมในศตวรรษที่ 8 พื้นที่นี้ก็ถูกครอบงำโดยอาณาจักรคริสเตียนของราชอาณาจักรอัสตูเรียส (Asturias) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับไล่มุสลิมออกจากคาบสมุทรไอบีเรีย

  3. ยุคสมัยใหม่: ในศตวรรษที่ 19 Cantabria เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในสเปน โดยเฉพาะในภาคการทำเหมืองแร่และอุตสาหกรรมเหล็ก ปัจจุบัน Cantabria ยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติที่สวยงาม มีภูมิทัศน์ที่สวยงามทั้งชายฝั่งทะเลและภูเขา รวมถึงเมืองหลวงอย่าง ซานตันเดร์ (Santander) ที่เป็นเมืองท่าที่สำคัญและมีบทบาททางเศรษฐกิจ

การจัดตั้งเมือง:

ในปี 1981 Cantabria ได้รับสถานะเป็นชุมชนอิสระ โดยมีการปกครองตนเองในหลายด้าน เช่น การศึกษา, การสาธารณสุข และการขนส่ง และกลายเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของสเปน

เมืองนี้เป็นที่รู้จักกันดีในด้านธรรมชาติที่มีความหลากหลาย เช่น อุทยานแห่งชาติ Picos de Europa และ ถ้ำคูบาเดลซู (Cueva de Altamira) ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก ที่มีภาพเขียนถ้ำโบราณที่มีอายุกว่า 36,000 ปี

ทั้งนี้ Cantabria ยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวสเปนรวมทั้งประเพณีและอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง เช่น Sobaos (ขนมเค้กแบบดั้งเดิม) และ Quesada (ชีสเค้กท้องถิ่น)

ประวัติอาหารของ Cantabria:
  1. อาหารทะเล: ด้วยการตั้งอยู่ติดชายฝั่งทะเล Cantabria จึงมีอาหารทะเลที่เป็นเอกลักษณ์และสดใหม่ อาหารทะเลใน Cantabria ถือเป็นส่วนสำคัญของอาหารประจำท้องถิ่น โดยเฉพาะ หอยแมลงภู่ (mejillones) และ ปลาทะเล เช่น ปลาคอด (merluza) และปลาทูน่า (bonito) ซึ่งมักจะถูกปรุงแบบพื้นเมืองเช่นการทำสตูว์หรือย่างบนเตาถ่าน

    หนึ่งในเมนูที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ Sardinillas (ปลาซาร์ดีนย่าง) ซึ่งมักจะเสิร์ฟในภัตตาคารริมทะเลหรือในงานเทศกาลต่างๆ

  2. อาหารจากภูเขา: สำหรับพื้นที่ในเขตภูเขา Cantabria ซึ่งมีทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ อาหารจากเนื้อสัตว์จึงเป็นส่วนสำคัญของเมนู เช่น เนื้อแกะ (cordero) และ เนื้อวัว (ternera) ซึ่งมักจะนำมาปรุงเป็น สตูว์เนื้อ หรือ การย่าง เนื้อสัตว์เหล่านี้มักเสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งและผัก

  3. เมนูเด่นของ Cantabria:

    • Cocido Montañés: เป็นสตูว์พื้นบ้านที่ทำจากถั่วขาว ผัก และเนื้อหมู หรือไส้กรอก เป็นเมนูที่รับประทานในช่วงฤดูหนาวและถือเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง
    • Rabas: เมนูจากปลาหมึกยักษ์ที่ทอดกรอบ นิยมรับประทานเป็นอาหารว่างหรือทานเล่นในร้านอาหารริมชายฝั่ง
    • Piquillos rellenos de bonito: พริกสีแดงยัดไส้ปลาทูน่าที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน
  4. ขนมหวาน:

    • Sobao Pasiego: ขนมเค้กที่ทำจากเนยและแป้ง เป็นขนมที่มีรสชาติหวานอ่อน ๆ และมีเนื้อสัมผัสที่เบา มักจะทานกับกาแฟหรือชา
    • Quesada Pasiega: ขนมหวานที่ทำจากชีสสด เนื้อครีมและแป้ง เหมือนกับชีสเค้กที่มีความหวานเล็กน้อยและรสเปรี้ยวจากชีสสด
  5. เครื่องดื่ม:

    • Sidra (แอปเปิ้ลไซเดอร์): แม้ว่าซิดราจะเป็นเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงในภูมิภาค Asturias แต่ใน Cantabria ก็มีการผลิตและดื่มไซเดอร์ด้วย โดยมักจะเสิร์ฟในแก้วสูง ๆ และเทจากขวดโดยให้มีฟองมาก
    • Licores de hierbas (เหล้าสมุนไพร): ซึ่งเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรต่างๆ ซึ่งมักจะดื่มหลังมื้ออาหาร
อิทธิพลจากวัฒนธรรม:

อาหารของ Cantabria เป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมโรมันที่นำการใช้วัตถุดิบจากทะเลและภูเขามาใช้อย่างหลากหลาย กับอิทธิพลจากการทำเกษตรกรรมและการเลี้ยงสัตว์ในภูมิภาคที่มีภูเขาสูงและทุ่งหญ้าเขียวขจี

อาหารของเมือง Cantabria จึงไม่เพียงแต่สะท้อนถึงภูมิประเทศและทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงวิถีชีวิตของผู้คนในภูมิภาคนี้ ที่มีการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติและคำนึงถึงการเก็บเกี่ยวและการผลิตอย่างยั่งยืน

Category: Blog
Tags: Blog
Previous Post
เดินข้ามเขาและละอองฝนไป Azurmendi เชฟมิชลินสามดาวหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก